|
|
|
ความเป็นมา
คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยนครราชสีมา เป็นคณะวิชาลำดับที่ 6 ของวิทยาลัยนครราชสีมา โดยสภาวิทยาลัยนครราชสีมาเห็นชอบให้จัดตั้งคณะพยาบาลศาสตร์และเปิดหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตในการประชุมสภาวิชาการ ครั้งที่ 5/2566 วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 และนำเสนอผ่านสภาวิทยาลัยนครราชสีมาเห็นชอบอนุมัติหลักสูตรในการประชุมสภาวิทยาลัย ครั้งที่ 5/2566 เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2567 ซึ่งทางวิทยาลัยนครราชสีมาได้ทำบันทึกความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี สำหรับการเป็นสถาบันพี่เลี้ยงในการดำเนินการจัดตั้งให้กับคณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยนครราชสีมา มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2567 ทั้งนี้วิทยาลัยนครราชสีมาได้แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต (หลักสูตรใหม่ พ.ศ.2568) เพื่อดำเนินการปรับปรุงหลักสูตรให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตราฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2565 และเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ดำเนินการภายใต้การบริหารงานตามแนวคิด ปรัชญา วิสัยทัศน์ พันธกิจของวิทยาลัยนครราชสีมา |
|
|
|
ปรัชญา
|
|
|
ผลิตบัณฑิตพยาบาลให้มีคุณธรรม นำความรู้ คู่การปฏิบัติ สู่สุขภาพชุมชน |
|
|
|
|
วิสัยทัศน์
|
|
|
เป็นสถาบันการศึกษาพยาบาลเอกชนชั้นนำ ที่มุ่งผลิตพยาบาลนักปฏิบัติที่มีคุณภาพ ให้บริการด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ |
|
|
|
|
อัตลักษณ์บัณฑิต
|
|
|
คิดเป็น (Thinking) ทำเป็น (Doing) เน้นจิตบริการ (Service mind) |
|
|
|
|
พันธกิจ
|
|
|
1. ผลิตบัณฑิตพยาบาลให้มีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ และมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์สอดคล้องกับความต้องการของสังคม
2. วิจัยและสร้างองค์ความรู้ใหม่เพื่อดูแลสุขภาพชุมชน
3. บริการวิชาการแก่สังคมและสร้างเครือข่ายในการดูแลสุขภาพ
4. ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น
5. พัฒนาระบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
|
|
|
|
|
สีประจำคณะ
|
|
สีแดง |
|
 |
สีแดง : เป็นสีมงคลที่สื่อถึงพลัง ความสุข ความสำเร็จและความมีชีวิตชีวา ความรัก, , ความปรารถนา, อำนาจ, ความเป็นผู้นำ, ความมุ่งมั่น
หมายถึง เป็นการต้อนรับสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต สีแดง’ เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคล และเป็นหนึ่งในสามของแสงสีปฐมภูมิ (RGB: สีแดง สีเขียว และสีน้ำเงิน) ทางวิทยาศาสตร์ และเป็นสีที่ทรงโปรดของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
การที่ประเทศไทยให้ความสําคัญกับการพยาบาลนั้น เนื่องในวันที่ 21 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันพยาบาลแห่งชาติ เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งตรงกับวันที่ 21 ตุลาคม เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในฐานะที่พระองค์ทรงสำเร็จการศึกษาวิชาการพยาบาล และตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจเพื่อพัฒนาสุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นแบบอย่างแก่ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ให้ตระหนักในภารกิจของวิชาชีพที่มีคุณค่าและเป็นแบบอย่างแก่สังคม |
|
|
|
|
ดอกไม้ประจำคณะ
|
|
ดอกปีป |
|
 |
ดอกปีป : เป็นสัญลักษณ์ของพยาบาลไทย โดยความหมายของต้นไม้ชนิดนี้ คือ เป็นต้นไม้ที่ให้ความร่มรื่นแก่ชีวิต ซึ่งหมายถึง “พยาบาล” และดอกปีบ ยังหมายถึงยาอายุวัฒนะ ซึ่งเปรียบเสมือนพยาบาล ที่ให้การดูแลรักษาและส่งเสริมสุขภาพแก่คนทั่วไป ต้นปีบเป็นต้นไม้ที่โตเร็ว เกิดขึ้นได้ในป่าทุกชนิด สามารถช่วยสร้างเสริมธรรมชาติที่ชุมชนและดำรงชีวิตให้แก่มวลมนุษย์ ต้นดอกปีบเป็นต้นไม้ที่สูงใหญ่และดอกส่งกลิ่นหอม ออกดอกเกือบตลอดทั้งปี เช่นเดียวกับพยาบาลที่จะเป็นการบริการสุขภาพที่มีความจำเป็นต่อสังคมตลอดไป |
|
|
หมวกพยาบาล |
|
หมวกพยาบาล : หมวกพยาบาลไม่ใช่การมีอำนาจการจัดการเท่านั้น แต่แสดงถึงภาระหน้าที่ที่เพิ่มขึ้น
หมวกพยาบาลนั้นวิวัฒนาการมาจากหมวกของแม่ชีในศาสนาคริสต์เพราะพยาบาลเริ่มต้นมาจากการที่ผู้ศรัทธาในพระเจ้ารวมกลุ่มกันทำงานช่วยเหลือดูแลผู้ป่วย ในสมัยของ ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล (ค.ศ. 1820-1910) สตรีชาวอังกฤษผู้มีชื่อเสียงในด้านการรักษาพยาบาล หมวกสีขาวนั้นเป็นเครื่องหมายว่าได้เข้าสู่การเป็นพยาบาลโดยสมบูรณ์"ตั้งแต่หัวจรดเท้า"และตระหนักรู้ว่าจะต้องมีความรับผิดชอบต่อวิชาชีพและต้องเป็นนางพยาบาลที่ดีตามความคาดหวังของสังคม ดังนั้นหมวกพยาบาลจึงเป็นหมวกอีกชนิดหนึ่งที่ใช้เป็นเพียงสัญลักษณ์ว่าผู้ที่ใส่นั้นเป็นบุคคลซึ่งได้รับการศึกษาวิชาการพยาบาล และพร้อมที่จะให้การดูแลผู้ป่วย
ส่วนแถบสีดำที่อยู่บนหมวกพยาบาล พอจะใช้เป็นเครื่องสังเกตได้บ้างว่าเจ้าของหมวกนั้นจบการศึกษาระดับใด |
 |
|
|
|
|
โลโก้คณะพยาบาล
|
|
 |
1.ตราสัญลักษณ์วิทยาลัยนครราชสีมา
2.กรอบโล่สีแดง หมายถึง โล่ที่เป็นสัญลักษณ์ของการปกป้อง ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ ที่เป็นบทบาทหน้าที่ของพยาบาล
3.พื้นสีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์ ความสะอาด และสันติภาพ
4.ชื่อคณะพยาบาลศาสตร์เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
ดังนั้น สัญลักษณ์วิทยาลัยนครราชสีมาบนกรอบโล่สีแดงพื้นสีขาว จึงหมายถึง คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยนครราชสีมา เป็นสถาบันบ่มเพาะพยาบาลที่มุ่งเน้นการป้องกันปัญหาสุขภาพของผู้รับบริการ ด้วยความบริสุทธิ์ สะอาดและความปลอดภัย ภายใต้การกำกับควบคุมของวิทยาลัยนครราชสีมา
|
|
|
|
|
ค่านิยม “NNMC” คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยนครราชสีมา |
|
ค่านิยมองค์กรคือหลักการชี้นำที่กำหนดจุดมุ่งหมายและทิศทางขององค์กร เปรียบเสมือนเข็มทิศที่นำทางการเดินทางของกำหนดทิศทางการตัดสินใจ และกำหนดอัตลักษณ์ขององค์กร ทั้งภายในและภายนอก ในการกำหนดควรค่านิยมควรหลีกเลี่ยงคำที่กว้างเกินไป แต่ควรกำหนดให้ชัดเจนว่าหมายถึงอะไรในบริบทขององค์กร ก่อนการได้รับอนุมัติให้เปิดดำเนินการจัดตั้งคณะพยาบาลศาสตร์ขึ้นเป็นคณะฯ ในลำดับที่ 6 เป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของวิทยาลัยนครราชสีมา ผู้บริหารร่วมกับคณาจารย์ของคณะฯ จึงได้ประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดค่านิยมของคณะฯ ซึ่งชื่อย่อภาษาอังกฤษของวิทยาลัยคือ NMC (Nakhon Ratchasima College) โดยเพิ่มอักษร “N (Nurse) = พยาบาล/การดูแลสุขภาพ” หน้า NMC รวมเป็น “NNMC” นำมาสื่อสารและใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานร่วมกันในคณะพยาบาลและสื่อสารให้ภายนอกรับทราบผ่านหน้า web page ของคณะพยาบาล เพื่อให้บุคคลภายนอกได้รับทราบถึงแนวทาง/ทิศทางการดำเนินงานของคณะพยาบาล และเพื่อให้ค่านิยม “NNMC” สามารถนำไปสู่การปฏิบัติตามพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของบุคลากร ผู้บริหารร่วมกับคณาจารย์ของคณะฯ จึงกำหนด วัตนธรรมของคณะขึ้นภายใต้การทำงานที่เป็นทีมทำงาน หรือ “TEAM” บุคลากรทุกคนในคณะฯ รับทราบและถือปฏิบัติ ซึ่งพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของบุคลากรจะช่วยให้การดำเนินงานของคณะพยาบาลเป็นไปตามทิศทางของค่านิยม หลังได้รับการอนุมัติให้เปิดดำเนินการและจัดตั้งคณะพยาบาลศาสตร์ขึ้นเป็นคณะฯ ในลำดับที่ 6 ได้มีการประเมินการนำวัตนธรรมของคณะพยาบาลฯ มาใช้ทุกเดือนในการประชุมของคณะจารย์ และพบว่าคณาจารย์ทุกท่านสามารถนำวัฒนธรรมของคณะพยาบาลมาใช้ในการดำเนินงานมาตลอดและต่อเนื่อง จนสามารถเปิดรับนักศึกษาจำนวน 88 คน ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในปีการศึกษา 2568 |
|
N (Nurse) = พยาบาล/การดูแลสุขภาพ |
|
พยาบาลเป็นวิชาชีพด้านการดูแลสุขภาพที่สำคัญ ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วย ครอบครัว และชุมชน ในการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ช่วยเหลือผู้ป่วยในกระบวนการรักษา และบรรเทาความทุกข์ทรมาน โดยพยาบาลจะสังเกตประเมินอาการ บันทึกความคืบหน้า ให้คำปรึกษา และทำงานร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ เพื่อวางแผนการรักษาและดูแลผู้ป่วยในทุกช่วงวัยและทุกสถานการณ์ |
|
N (Network) = เครือข่ายสุขภาพ |
|
เครือข่ายสุขภาพ คือระบบการเชื่อมโยงผู้คน, กลุ่มบุคคล, และหน่วยงานต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูล การสนับสนุนซึ่งกันและกัน และการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพการดูแลสุขภาพโดยรวม. เครือข่ายสุขภาพสามารถครอบคลุมตั้งแต่การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้ให้บริการด้านสุขภาพกับผู้ป่วย การเชื่อมโยงโรงพยาบาล บริษัทประกันภัย และองค์กรอื่นๆ |
|
M (Moral) = คุณธรรม จริยธรรม/จรรยาบรรณวิชาชีพ |
|
คุณธรรม จริยธรรม/จรรยาบรรณวิชาชีพ คือแนวทางความประพฤติที่ดีงามที่บุคคลในวิชาชีพยึดถือปฏิบัติ เพื่อรักษาเกียรติยศ ชื่อเสียง และส่งเสริมวิชาชีพให้เป็นที่ยอมรับและเคารพของสังคม โดยเป็นหลักการที่ยึดถือในการปฏิบัติงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ความรับผิดชอบ และเป็นประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม |
|
C (Community) = ชุมชน/การมีส่วนร่วม |
|
ชุมชน/การมีส่วนร่วม คือกระบวนการที่ทำให้สมาชิกในชุมชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ การวางแผน การดำเนินการ และการรับผลประโยชน์จากโครงการหรือกิจกรรมที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของพวกเขา โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งและยั่งยืนระหว่างชุมชนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง |
|
|
|
การนำค่านิยม “NNMC” ไปสู่ปฏิบัติ |
|
พฤติกรรมที่พึงประสงค์ของ “NNMC”
- ด้านคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ:
- ความรับผิดชอบ: มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานและยอมรับผิด
- ความซื่อสัตย์ (Fidelity): มีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ผู้อื่น และรักษาพันธะสัญญา
- การไม่ทำอันตราย (Non-malfeasance): ปฏิบัติตนเพื่อไม่ให้ผู้ป่วยได้รับอันตราย
- การทำประโยชน์ (Beneficence): ปฏิบัติตนเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ป่วย ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสังคม
- ความยุติธรรม (Justice): ปฏิบัติต่อผู้ป่วยอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่เลือกชนชั้น เชื้อชาติ หรือศาสนา
- การบอกความจริง (Veracity): ให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีสิ่งปิดบัง เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าใจและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
- การเคารพเอกสิทธิ์ (Autonomy): เคารพการตัดสินใจของผู้ป่วย และให้โอกาสผู้ป่วยในการตัดสินใจเรื่องการดูแลของตนเองอย่างอิสระ
- ด้านจิตใจและทัศนคติ:
- ความเห็นอกเห็นใจ: แสดงความใส่ใจและเอาใจใส่ผู้ป่วยอย่างแท้จริง
- จิตอาสาและจิตสาธารณะ: มีจิตสำนึกในการช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก และมุ่งประโยชน์เพื่อส่วนรวม
- ความอ่อนโยนและสุภาพ: สื่อสารและให้บริการด้วยความสุภาพอ่อนโยน
- ด้านความรู้และทักษะ:
- ความรู้ทางวิชาชีพ: มีความรู้ความเข้าใจในวิชาชีพพยาบาล หลักการรักษา และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- การสื่อสาร: มีทักษะในการสื่อสารที่ดี สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ป่วยและทีมสุขภาพ
- การเรียนรู้ตลอดชีวิต: แสวงหาความรู้ใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาตนเองและวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง
|
|
|
|
การนำค่านิยม “NNMC” ไปสู่วัฒนธรรมองค์กร “TEAM” |
|
วัฒนธรรมองค์กร หมายถึง แบบแผนของพฤติกรรมที่ได้รับการสร้างขึ้นจากคนส่วนใหญ่ขององค์กร โดยมีการเรียนรู้และเห็นแนวปฏิบัติซึ่งกันและกัน และยึดถือเป็นแนวปฏิบัติจนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติขององค์กรนั้นๆ วัฒนธรรมองค์กร คณะพยาบาลศาสตร์ คือ “TEAM” ที่กลุ่มบุคคลรวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมหรือเป้าหมายร่วมกัน โดยมีการทำงานที่ประสานงานกัน มีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และมีเป้าหมายที่ชัดเจนร่วมกัน” ประกอบด้วย |
|
T (Trust) = การเคารพและไว้วางใจซึ่งกันและกัน |
|
หมายถึง ความเชื่อมั่นที่บุคคลมีต่อบุคคลอื่น โดยคาดหวังว่าอีกฝ่ายจะซื่อสัตย์ จริงใจ และไม่เอารัดเอาเปรียบ ซึ่งจะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่มั่นคงและราบรื่น |
|
E (Evidence) = ทำงานภายใต้การใช้ข้อมูลที่สมเหตุสมผล |
|
หมายถึง การทำงานภายใต้การใช้ข้อมูลที่สมเหตุสมผล การตัดสินใจและดำเนินการโดยอาศัยหลักฐาน ที่ผ่านการพิจารณาแล้วว่าน่าเชื่อถือและสมเหตุสมผล เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีและลดความผิดพลาด |
|
A (Accountability) = ความรับผิดชอบ ตนเอง เพื่อนร่วมงาน องค์กร ประชาชน |
|
หมายถึง การยอมรับผลทั้งดีและไม่ดีจากการกระทำและผลลัพธ์ของหน้าที่ที่ตนเองรับผิดชอบ โดยขยายขอบเขตครอบคลุมตั้งแต่ตนเอง เพื่อนร่วมงาน องค์กร ไปจนถึงประชาชน ซึ่งรวมถึงการตัดสินใจ การลงมือทำ และผลที่ตามมาจากการกระทำเหล่านั้น |
|
M (Moral) = ปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต และมีคุณธรรม |
|
หมายถึง การทำหน้าที่ด้วยความจริงใจ ไม่คดโกง ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบ มีความรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง และยึดถือประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว |
|
|
|
ลักษณะสำคัญของ “TEAM” |
|
มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม: สมาชิกในทีมมีความเกี่ยวข้องกัน ทำงานร่วมกันในกิจการของกลุ่ม |
|
มีจุดมุ่งหมายและเป้าหมายร่วมกัน: สมาชิกทุกคนมีเป้าหมายที่สอดคล้องกัน เพื่อให้การทำงานสำเร็จลุล่วง |
|
มีโครงสร้างของทีม: มีระบบพฤติกรรมที่สมาชิกต้องปฏิบัติตาม ทั้งกลุ่มทางการ (Formal) และ/หรือไม่ทางการ (Informal) |
|
สมาชิกมีบทบาทและมีความรู้สึกร่วมกัน: มีการแบ่งปันบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบตามความถนัดของแต่ละคน |
|
|
|
ประโยชน์ของการทำงานเป็นทีม |
|
|
เพิ่มประสิทธิภาพ |
|
การทำงานร่วมกัน ช่วยให้งานสำเร็จได้ดีกว่าทำคนเดียว |
|
สร้างสรรค์สิ่งใหม่ |
|
การทำงานเป็นทีม ช่วยนำมาซึ่งความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่ดีกว่า |
|
กระจายความเสี่ยง |
|
การแบ่งปันความรับผิดชอบ ช่วยลดภาระงานของแต่ละบุคคลได้ |
|
|
|
|
พฤติกรรมที่พึงประสงค์ของ “TEAM” |
|
พฤติกรรมที่พึงประสงค์ของทีม คือ การมีเป้าหมายร่วมกัน การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การให้ความร่วมมือและสนับสนุนซึ่งกันและกัน การเคารพและยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง ความรับผิดชอบต่องาน การมีวินัยและความตรงต่อเวลา รวมถึงการปรับตัวและความยืดหยุ่น
- เป้าหมายร่วมกัน (Clear Goal) คือตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน: สมาชิกทุกคนในทีมต้องเข้าใจและมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายเดียวกันของทีม
- การสื่อสาร (Communication) คือสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา: พูดคุยอย่างชัดเจน จริงใจ และสม่ำเสมอ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจบทบาทหน้าที่และทิศทางของงาน และเปิดใจรับฟัง: รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของเพื่อนร่วมทีมอย่างไม่มีอคติ
- ความร่วมมือและการสนับสนุน (Collaboration & Support) คือร่วมแรงร่วมใจ: ช่วยเหลือ เกื้อกูล และสนับสนุนซึ่งกันและกัน เพื่อให้งานของทีมสำเร็จลุล่วงและและเคารพและยอมรับ: เคารพสิทธิ ความคิดเห็น และความสามารถของเพื่อนร่วมทีมแต่ละคน
- ความรับผิดชอบ (Responsibility) คือรับผิดชอบต่องาน: ปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถและและมีสำนึกต่อส่วนรวม คือตระหนักถึงผลกระทบของงานตนเองต่อผู้อื่นและความสำเร็จของทีม
- วินัยและความยืดหยุ่น (Discipline & Flexibility) คือตรงเวลา: ทำงานให้ตรงตามกำหนดเวลา เพื่อให้การดำเนินงานราบรื่น และปรับตัวได้: มีความยืดหยุ่นและพร้อมปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
- การพัฒนาตนเองและทีม (Continuous Improvement) คือพัฒนาจุดแข็ง: มองหาและส่งเสริมจุดแข็งของสมาชิกในทีม เพื่อนำมาใช้ในการวางแผนและดำเนินงาน และแสวงหาข้อเสนอแนะ: เปิดใจรับคำติชมเพื่อนำมาปรับปรุงการทำงานของตนเองและทีม
ค่านิยมเป็นปัจจัยพลักดันของพฤติกรรมของบุคลากรในคณะฯ ที่ได้มีการยอมรับและสามารถนำพาคณะฯ นำพาให้องค์กรไปสู่ความสำเร็จ บรรลุวิสัยทัศน์ และพันธกิจได้จึงจะเห็นได้ทั้งค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร มีประโยชน์หลายประการ ดังนี้
|
|
|
|
ประโยชน์ค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร |
|
- ประโยชน์ต่อบุคลากร
- ทำให้บุคลากรสามารถเข้าใจแนวทางตลอดจนเห็นความเชื่อมโยงสอดคล้องของการทำงาน ทำให้บรรลุผลตามที่คาดหมาย
- ทำให้บุคลากรสามารถปรับตัวเข้ากับการทำงานขององค์กรได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
- ประโยชน์ต่อองค์กร (คณะพยาบาลศาสตร์)
- เพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพในการดำเนินการขององค์กร
- มีบรรยากาศการทำงานของบุคลากรที่เชื่อมโยงและสอดประสานกัน
- เกิดเป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติงาน ส่งผลให้องค์กรบรรลุ วิสัยทัศน์และพันธกิจที่ตั้งไว้
|
|
|